Notes to Myself

ไดอารี่คลาสพี่แหม่ม ปี 62

อาทิตย์ 28 เมษายน 2562

ผู้อ่านครับ 

สมุดบันทึกเล่มนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการบ้านของคลาสหัดเขียน ที่พี่แหม่มวีรพร แกขอร้องแกมบังคับให้นักเรียนในคลาสทั้ง 12 คน ใช้เป็นสารตั้งต้นในการฝึกค้นหาทั้งภาษาและตัวเองของนักอยากเขียนแต่ละคน เพราะงั้น มันจะเป็นบันทึกที่ไม่ได้เล่าเรื่องจริงทั้งหมด มันจะเป็นบันทึกที่หวังจะใช้เป็นแบบฝึกหัดการเขียน และแน่นอนมันจะเป็นการบ้านที่ผม จะได้มีส่งพี่แหม่ม เพราะคำทิ้งท้ายก่อนเลิกคลาสของพี่แหม่มที่พูดว่า “ ถ้าเขียนไดอารี่ 30 วันต่อเนื่องไม่ได้ ก็อย่ามาอยากเป็นนักเขียนเลย” นี่แหละครับ คุณผู้อ่าน ไดอารี่นี้ ไม่ได้ทำหน้าที่เล่าเรื่องเท่านั้น แต่มันทำอีกหน้าที่ด้วย คือแบกศักดิ์ศรีอันมีน้อยนิดของผมในฐานะนักเรียน ที่ได้ผ่านการนั่งล้อมวงในคลาสสอนการเขียนที่ขุดลึกถึงสิ่งที่ซ่อนอยู่ใต้ความคิดของคนมาเรียน เพราะพี่แหม่มบอกว่านั่นคือวัตถุดิบที่ดีที่สุดของนักเขียน

“เจ็บตรงไหน เขียนตรงนั้น”

ผู้อ่านเคยไปแถวบางรักไหมครับ 

คลาสเวิร์คช็อปเมื่อวานนี้ จัดขึ้นที่ Warehouse 30 โดยพี่แหม่มให้เหตุผลว่า ค่าเช่ามันดีลได้ดีที่สุดสำหรับการจัดคลาสแล้วแหละ 

——————————–

อังคาร 31 เมษายน 2562

ผู้อ่านครับ

การเขียนไดอารี่ เมื่อมันเป็นการบ้านของคลาสนักเขียน มันดูจะเป็นภาระ และ กิจ ที่เรียกร้อง ท้าทาย ความ อยาก จะเป็น ของคน อยากจะหัดเป็นนักเขียน แต่มันก็ทำให้ผมได้ทบทวนว่า โฟกัสของคนเป็นนักเขียน จะต่างจากคนทั่วไป การใช้ชีวิตจะต้องถูกเล่าซ้ำได้ เรียกว่านักเขียนน่าจะเป็นคนที่ต้องใช้ชีวิตให้เหมือนมี ระบบบันทึกความจำ ที่แปลมาเป็นเรื่องเล่า มันน่าตั้งคำถามอยู่ 2 อย่าง ว่า เราใช้ชีวิตเพื่อให้มีเรื่องเล่า หรือ

การใช้ชีวิตทำให้มีเรื่องเล่า คำถามนี้ เราลองพิสูจน์ได้ว่า ถ้าเกิดเราเล่าเรื่องใน 1 วันของเรา ที่ไม่ได้มีกิจกรรมหรืออะไรพิเศษ มันจะเล่าได้ไหม เช่น วันนี้เป็นวันที่ผมป่วยๆ มีอาการหนาวๆ ร้อนๆ เหมือนโดนเชื้อไวรัสอ่อนๆ ทำให้การตัดสินใจจะตื่นไปทำงานไหม เป็นการสู้รบกับจิตใจในระดับหนึ่ง และนี่คือ การเขียนไดอารี่ถึงวันที่ไม่ได้มีโฟกัสกิจกรรม หรือเจอใครเป็นพิเศษ ………….

ในวันที่เราอยู่คนเดียว ด้วยอาการนอนป่วยๆ ใจที่อยากจะพักให้เต็มที่ ต้องถูกปลุกด้วยโทรศัพท์ ซึ่งการปลุกมาได้หลายรูปแบบมาก ทั้ง line ทั้ง โทร ทั้งอีเมล เรียกว่าอาการติดโทรศัพท์ ที่ต้องวางโทรศัพท์ ไว้ใกล้ๆ ย้อนกลับมาทำร้ายเวลาพักผ่อนของคนป่วยได้เหมือนกัน ตัวผมในฐานะคนป่วย พยานยามจะเยียวยาตัวเองด้วยการนอนให้หลับสนิทที่สุด ขดตัวอยู่ในผ้าห่ม ให้ร่างกายได้พักเต็มที่ แต่ตัวละครรอบๆ ตัว ก็จะส่งมาทักทายในรูปแบบต่างๆ Line จากกลุ่มงานต่าง ๆ ก็เด้งเข้ามา

…………………..

*บันทึกท้ายไดอารี่

นี่คือ ไดอารี่ 2 วัน ที่ได้ฝึกเขียนตอนไปเรียนคลาสงานเขียนของพี่แหม่ม วีรพร กลับมาอ่าน พบว่า งานเขียนที่ดีคืองานที่ต้องเขียน เราถึงจคุ้นกับภาษา วิธีเล่าของตัวเอง จำได้ว่าเขียนไดอารี่ที่เป็นการบ้านนี้แค่ 2 วัน แล้วก็ไม่ได้เขียนอีกเลย มาอ่านวันนี้ เหมือนตัวเองไม่ได้เขียน แต่สะท้อนเห็นตัวเองในวันที่ได้ขลุกอยู่กับความคิดเรื่องการเขียน และได้พี่แหม่มคอยกระทุ้งให้เขียน เป็นช่วงเวลาที่ดีใจที่ได้ไปเรียนกับพี่แหม่ม และทำให้งานเขียนยังเป็นที่พึ่งสุดท้ายของความหลงไหลใฝ่ฝัน / รักพี่แหม่มเสมอ

Jakksky
18 October 2021 Bangkok, Thailand