Short Story

วันเสาร์ของสมาคมลับ

ภาพชิงช้าสวรรค์ที่สลึมสลือ นิ่งเงียบ ร้างผู้คนของ Asiatique เช้านี้ กลายเป็นดินแดนมหัศจรรย์ขึ้นมาทันที เมื่อผมมาที่นี่ เพื่อเข้า Workshop เกี่ยวกับงานเขียน ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมใฝ่ฝันจะทำมาตั้งแต่เด็ก

การตัดสินใจทำตามใจตัวเอง ด้วยการลงชื่อเข้าคลาสนี้ เมื่อเดือนก่อน ทำให้ร้านกาแฟธรรมดาๆ
ที่ตั้งอยู่ข้างชิงช้าสวรรค์ที่ไร้นักท่องเที่ยว กลายเป็นเหมือนฉากในหนังแฮรี่ พอตเตอร์

เพราะภาพที่ผมเห็นเช้านี้ ที่นี่คือเมืองในอุดมคติ ที่นักเขียนของสมาคมนักเขียนลับแห่งบางกอก มารวมตัวกันดื่มกาแฟ สูบบุหรี่ ฟุ้งฝัน ถึงวันที่จะเปลี่ยนโลกได้ด้วยจักรวาลของตัวอักษรที่ลอยเคว้งคว้าง
อยู่รอบๆ วงล้อสีขาวแห่งมหานครกรุงเทพ

ภาพที่เราวาดชีวิตวันหยุดในกรุงเทพ จะเป็นแบบไหนก็ได้
ถ้าเรายังมีจินตนาการพอที่จะเลือกทำสิ่งที่เคยรักสิ่งที่เคยฝัน

เช้าวันอาทิตย์ น่าจะเป็นเวลาที่ดีที่สุด
ที่เราจะเลือกเดินทางไปดินแดนในฝัน

Jakksky
29 Nov 2020

บนความจาก Worshop งานเขียนบทความ สอนโดย พี่หนุ่ม โตมร สุขปรีชา และ พี่แหม่มวีรพร
ในเช้าวันอามืตย์ที่ขาวกว้างว่างงาม ฟุ้งฝันไปกับควันบุหรี่

Short Story

ฝึกเขียนจากภาพ คลาสพี่แหม่ม 62

เขียนเรื่องสั้นจากภาพโปสการ์ด


1

ภาพสุดท้ายที่จำได้ ก่อนที่ผมจะลืมตาขึ้นมาที่ริมถนนที่วางเปล่าสุดลูกหูลูกตานี้คือ ภาพวิวข้างหน้าต่างรถที่ผมต้องมองผ่านกรงออกไป มันพล่าๆ เลือนๆ แต่จำได้ว่ามันเป็นภาพแสงของตึกในเมืองที่ค่อยๆ หายไป จนกลายเป็นแค่เงาต้นไม้ข้างทางที่ผ่านไปทีละต้น ทีละต้น ก่อนที่ผมจะงีบหลับไป จำได้ว่าข้างทางไม่เหลือต้นไม้แล้วมีแค่เส้นขอบฟ้าที่นิ่งและทอดยาว…..

2

ใครวะพากูมาทิ้งไว้ข้างทางแบบนี้ แม่มเล่นทีเผลอซะด้วย พอออกจากศาลเล่นเอาผ้าคลุมหัวจับขึ้นรถมา เท่าที่นั่งคำนวนเวลาตั้งแต่รถขับออกจากเมืองมาก็น่าจะ 12 ชั่วโมงได้มั้ง ถ้าเวลาขับรถประมาณนั้น กูไว้ไอ้ข้างๆ ทางนี่ มันต้องเป็น Zero Zone แน่ๆ แหม แค่ ฐานปลอมแปลง ID Card โกงอายุ เข้าไปทำงานในสื่อของรัฐบาล เล่นกูซะยังกับฆ่าคนตาย

แล้วนั่นไง ไอ้ที่เค้าบอกว่าโทษที่ Zero Zone มันโหดยิ่งกว่าติดคุก เพราะมันใช้เทคโนโลยีอะไรไม่รู้ สร้างตัวเราอีกคนขึ้นมา และมันก็ตั้งกติกาว่า ให้ไอ้เราทั้ง 2 คน ต้องเดินทางกลับเมือง ถ้ากลับถึงก็จะได้อิสรภาพคืน อ่า และไอ้งั่งที่กูต้องเดินทางด้วยก็เพิ่งงัวเงียตื่นขึ้นมานั่นไง….

1

ยิ่งอายุมากขึ้น ความผิดพลาดมันก็ร้ายแรงขึ้น แค่เราอยากทำงานเป็นครีเอทีฟในสื่อของรัฐบาลแค่แก้อายุใน ID Card จาก 42 เป็น 29 และก็พยายามเข้าฟิตเนสกับลงทุนทำศัลยกรรมนิดหน่อยให้หน้าเด็กลง กลายเป็นว่ามาโดนจับได้เพราะมีคนไปรื้อดูภาพที่เราไปเที่ยวใน Facebook และฝ่ายสืบสวนแจ้งว่าเราไปเที่ยวหลายที่เกินกว่าเด็กอายุ 29 จะไปได้ แหมดูถูกเด็กกันจัง การมาตื่นข้างทางแบบนี้ ตรงกับที่อ่านมาเรื่องโทษของคดีนี้ ที่ว่าเราจะต้องมาที่ Zero Zone แล้วต้องเดินทางกลับเข้าเมือง พร้อมกับตัวเอง ….ที่ตอนนี้ผมมองเห็นเค้าละ และเพิ่งรู้นะเนี่ยว่าตัวเอง2 คน ที่ว่า ยังต้องใส่ชุดเหมือนกันด้วย ใส่หมวกดำ แจ๊กเกตดำ 

“ใครเป็นสไตลิสต์ให้ เรากันนะ “

2 “เฮ้ ย พ่อกวี นั่งเหม่อแบบนี้เมื่อไหร่จะได้เข้าเมืองครับพี่”

1 “โทษทีนั่งทบทวนว่าเรามาโผล่ที่นี่ได้ไง”

2 “ไม่น่างง ตั้งแต่โดนสอบสวนกูก็คิดภาพนี้ไว้ในใจแล้ว ปะ ได้เวลาเดินทาง”l

1 “คิดว่าคนอื่นๆ ที่โดนแบบเรา เค้าจะได้ใส่ชุดดำ ใส่หมวกดำ แบบนี้รึเปล่า”l

2 “จะไปรู้เรอะ เดินไปคงเจอมั้ง และชุดแบบนี้ไม่ใช่เหรอที่เอ็งอยากใส่ทุกวันแทนสูทเวลาไปทำงาน”

1 “เออแฮะ สไตล์ลิสต์คดีนี้มันเข้าท่าแฮะ”

2 “……”

2 “นั่นไงหลงประเด็นอีกละ มึงคิดรึยังว่าเราจะต้องเดินไปไกลแค่ไหนและชุดแบบไหนเค้าถึงจะให้ใส่เข้าเมือง คิดไหมเราต้องเจออะไรข้างหน้าและมึงกับกูใครจะรอดเข้าไป”

1 “ขึ้นอยู่ว่าเราจะกลับเข้าไปชุดไหน และอยู่ที่เราอยากกลับไปเป็นอะไร และใครจะรอดระหว่างเรา?

จบ intro chapter

___________________

บันทึกท้ายการบ้าน นี่เป็นการบ้านที่พี่แหม่มให้โปสการ์ดมา 1 ใบ ทุกคนในคลาได้ไม่เหมือนกัน แล้วให้แต่ละคนคิดพล็อตเขียนเรื่องสั้น เท่าที่จินตนาการออกมาได้ ของผมไม่รู้ตอนนั้นคิดอะไรอยู่จึงเล่าออกมาในรูปแบบนี้

พี่แหม่ม ให้ความเห็นสั้นๆ มาทางอีเมลว่า

ดีค่ะ แต่ มันเหมือนบทเปิดนะคะ ยังไม่จบ ไปได้อีก เหมือนแบบตัวเรื่องน่าจะไปอยู่ตอนต้องอยู่กับตัวเองอีกคน ปะ สาระไม่เกี่ยวกับเจอตัวเอง คือมันพูดจาประหนึ่งรู้อยู่แล้วว่าอะไรต้องไง ต้องมีตัวเอง ต้องเดินกลับกับตัวเอง เวิร์คต่อดีมั้ยคะ สักอีกหน้าสองหน้า ส่งได้ละ ตามเว็บ ตรวจคำผิดนิสสส
-แหม่ม 

14 may 2562

ขอบคุณที่ได้ผ่านคลาสพี่แหม่ม ทั้งๆ ที่วันนั้นไม่มีความพร้อมจะเขียนหนังสือกับเค้า
แค่รู้สึกว่าวันนึงที่หลายๆ สิ่งรอบตัวมันสำคัญมันนิ่งลง เราจะมีเวลานั่งลง เพื่อพูดคุยกับภาษาของตัวเอง เพื่อเขียนออกมาเพื่อเป็นเล่าเรื่องสำหรับผู้อ่านคนแรก คือตัวเอาเอง /ขอบคุณพี่แหม่มที่รักและดูแลเสมอมาครับ

Jakksky 19 Oct 2021 Bangkok



Short Story

รูดาดฟ้า 2

คงต้องให้เครดิตการดูหนังมาเยอะของสมดุล เพราะคาดเดเได้ไม่ยากเลยว่าสมดุล กำลังอยู่ในนิยายเซอร์เรียล รึอาจจะเป็นสัจนิยมเหนือจริง ซึ่งชื่อนี่ยากมากๆ ถ้าเราจะมาอธิบายความแตกต่างกัน เอาเป็นว่านิยายเรื่องนี้เกิดอะไรขึ้นก็ได้ และสมดุลในฐานะตัวละครหนึ่งเดียว ก็เลือกที่จะเชื่อหรือไม่เชื่อในสิ่งที่เกิดขึ้น หรือสิ่งท่่จะลงมือทำในเรื่อง “ตกลงคุนเอาเรามาไว้ในนิยายที่เอาแน่เอานอนไม่ได้ แม้กระมั่งตรรกกะง่ายๆ อย่างพล็อตเรื่อง ปมตัวละคร คลอนเฟลก เอ้ยคลอนฟลิกอะไรเนี่ย ยึดถือไม่ได้เลยงั้น” ผมตอบสมดุลสั้นว่า เออใช่ แต่ไอก็ยังไม่รู้ทั้งหมดนะ

เฮ้ยสมดุล บนโต๊ะนี้มีจดหมายถึงนายแฮะ สมดุลหยิบโน็ตยับยู่ยี่ขึ้นมาอ่าน
“สมดุล นี่เป็นจดหมายจากครูอร นะ ครูวิ่งตามเธอมาที่ชั้นนี้ แล้วก็ม่เห็นเธอ เหมือนเห็นหลังแว็บๆ
ที่เธอปีนขึ้นไปตรงเพดาน และรูเล็กนิดเดียวเธอมัดขึ้นไปได้ยังไง

จดหมายโน้ตนี้ครูขึ้นมาเขียนใหม่ให้เธอปีละครั้ง เพราะตั้งแต่เธอขึ้นไป ครูก็ไม่เคยเจอเธอเลย
นี่น่าจะเป็นจดหมาใบสัดท้ายที่ครูจะเขียนถึงเธอละ ถ้าเธออยากนับว่าเธอหายไปกี่ ก็นับตามจำจำนวนแผ่นกระดาษนะ สุดท้ายตั้งแต่ครูมาเขียนจดหมายที่นี่ ครูเห็นสิ่งที่เกี่ยวกับเธอชิ้นคือช้อนสีเงิน ที่อาจปลิวมาจากรูของเธอ ครูไปค้นหาตำราไอ้เรื่องช้อนที่ใช้ขุดขึ้นบนฟ้าได้นี่มา มันเหมือนมีตำราหลอกเด็ก รีนิทานนี่แหละ เขียนถึงว่า ถ้าใครได้ค้นหาและครอบครองช้อนทั่ง6 คัน ได้ครบ คนๆ นั้นจะขุดขึ้นไปเจอ “เมืองดาดฟ้า” ที่ถ้าขุดเจอครบ 6 รู เราจะอยู่ใน “เมืองดาดฟ้าได้แบบไม่จำกัดเวลา เรียกว่าอยู่อาศัยได้จนกว่าจะพอใจ

“แล้วไอ้เมืองดาดฟ้ามันมีอะไรน่าสนุกวะครับครู”

ครูก็บออกไม่ได้ เธอน่าจะได้คำตอบเมื่อเธอเริ่มค้นหาเจอช้อนคันต่อไป
แต่ครูบอกเธอได้อย่างนึงว่า ช้อน แต่ละคัน มีพลังไม่เหมือนกัน ใช้งานก็ต่างกัน
ถึงมันจะขัดเหมือนกัน แต่มันอาจได้สิ่งที่ได้มาใหม่เหมือนกัน

“แล้วช้อนคันนี้มันมีพลังอะไรครับครู”

เท่าที่ดูช้อนคันนี้มีพลังของความไม่รู้ รูดาดฟ้าที่ช้อนนี้ขัดได้ จะพาขึ้นไปสู่ดาดฟ้าของความไม่รู้
เหมือนที่เธอขุดหนีครูขึ้นไปจนเวลาผ่านมาตั้งนาน นี่แหละคือดาดฟ้าความไม่รู้ ที่เธอค้นเจอละ

“เราฟังแล้วช้อนหักๆ งอๆ นี่เหมือนไม้เวทมนต์ของอฮรี่พอร์ตเตอร์ เลยชักน่าสนุก
เราจะเริ่มสะสมช้อนนี้ ให้ครบ 6 คัน และตามหารูดาดฟ้าให้ครบ 6 รู

แต่ตอนนี้ ท้องร้องหิวข้าวขึ้นมาแล้ว พอดีเลยเราจะได้สั่งข้าว
เผื่อจะได้เจอช้อนคันต่อไป ก็เป็นได้

สมดุลเดินหน้าบับไดเพื่อเดินลงไปหาข้าวกิน สมดุลเดินผ่านหน้าห้องเรียนที่เป็นกระจก
สมดุลมองตัวเอง และตกใจ เพราะในกระจก สมดุลคือเด็กมหาลัยในยูนิฟอร์มเต็มยศ
มาถึงตอนที่รู้ว่าช้อนชุดดาดฟ้าได้ อะไรก็เกิดขึ้นได้แล้วแหละ

สมดุลเสยผมี่ยาวขึ้น ขยับแว่น แล้วเดินมองไปหาบันไดลง
เป้าหมายทีัดที่สุดชองสมดุลตอนนี้คือ ข้าวผัดกุ้ง ที่โรงอาหารเท่านั้น
ภารกิจอื่นๆ เป็นเรื่องของันพรุ่งนี้ละกัน

30 Sep 2021, Bangkok

Short Story

รูดาดฟ้า

เที่ยงๆ เวลาที่คนอื่นลงไปกินข้าว
สมดุลมีภารกิจลับๆ อย่างนึง ที่สมดุลได้แรงบันดาลใจมาจากหนังเกี่ยวกับการแหกคุกเรื่องนึง
ที่พระเอกใช้ช้อนกินข้าวที่แอบเก็บเอาไว้ ค่อยๆ มาขุดรูวันละนิด วันละนิด จนกลายเป็นโพลงใต้ดิน
ที่ขุดไปได้ยังไงไม่รู้ด้วยช้อนอันเดียว ได้โพลงใหญ่จนคลานหนีออกจากคุกไปได้

สมดุลจำภาพจากหนังได้ติดตา จึงไม่แปลกที่ใครจะสังเกตเห็นว่าสมดุลมักเหน็บช้อนสีเงินๆ 1 คัน
ไว้ที่กระเป๋าเสื้อ แล้วทุกเที่ยงสมดุลจะเดินขึ้นบันไดหายไปชั้นบนสุดของตึก สมดุลตั้งใจ
เอาช้อนไปขุดหา รูดาดฟ้า เพื่อเอาไว้หลบขึ้นไปนอนดูเมฆ ตอนที่เบื่อจากงาน

รูดาดฟ้า ที่ตึกออฟฟิศ ไม่ใช่รูแรกที่สมดุลขุด สมดุลเองจำไม่ได้ว่ารูแรกที่ขุดจริงๆ คือไปขุดไว้ที่ไหน
แต่ถ้าให้นั่งทบทวน สมดุลมีความจำจางๆ ว่า รูแรกที่ขุดน่าจะเป็น รูดาดฟ้า ของโรงเรียนตอนอยู่ชั้นประถม “เออใช่! นั่นแหละรูแรกที่เราขุด” สมดุลพูดแทรกขึ้นมาระหว่างผม (ผู้เขียน) เขียนอยู่ ~สมดุลแทนตัวเองว่าเรา เวลาคุยกับผม (ผู้เขียน)

“เราขุดเพื่อเอาไว้หนีครูตี” สมดุลจำเหตุการณ์เที่ยงวันนั้นที่โรงเรียนได้ดี เพราะระหว่างที่แอบเอาข้าวเที่ยงออกมากินนอกโรงอาหาร เอาออกมาแบบยกมาทั้งจาน มายืนกินระหว่างที่กลุ่มเพื่อนนั่งล้อมวงเล่นไพ่กันอยู่หลังโรงอาหาร ซีนนี้จะคล้ายๆ หนังวัยรุ่นทั่วไป คือมีครูฝ่ายปกครองแอบย่องถือไม้เรียวมาข้างหลังวงไพ่แล้วก็จะมีใครสักคนในวงเห็น “เฮ้ย! ครูมา” จากนั้นไพ่ เศษเหรียญ รวมถึงจานข้าวของสมดุล ก็กระเจิงไปคนละทิศละทาง “เรารู้ตัวอีกทีก็มีแค่ช้อนคันนึงในมือ แล้ววิ่งจนถึงชั้นบนสุดของอาคารเรียน”

เดาว่าความลนบวกความเบลอ และภาพจากหนังแหกคุกที่อยู่ในหัวสมดุล จู่ๆ สมดุลก็เอาช้อนที่ติดมือมาขุดๆๆๆ เพดาน ที่เหมือนเป็นทางตัน ตอนนั้นในใจสมดุลคือ ถ้าขุดทะลุเพดานออกไปได้ มันคือดาดฟ้า ที่คิดว่าครูคงจะไม่ตามขึ้นมา เพราะรูที่ขุดได้คงแค่สำหรับไซส์เด็กแบบสมดุล ผู้ใหญ่ไม่น่าโผล่ตามขึ้นมาได้

………….

สมดุลไม่แน่ใจว่าเผลอขุดรูตรงเพดานนี้อยู่นานเท่าไหร่ แต่ถ้าในหนังแหกคุกเรื่องนั้นทำได้ สมดุลก็ทำได้
สมดุลมุดรูขึ้นไป ดึงตัวขึ้นจนไปยืนอยู่บนดาดฟ้า ภาพที่สมดุลเห็นตรงหน้าไม่คุ้นตา เพราะตึกเรียนหายไปหลายตึก สนามบอลที่เคยเตะก็เป็นที่โล่งมีแต่ต้นไม้ พอมองไปตรงโรงอาหาร สมดุลเห็นแค่โครงสร้างเสา มองแล้วมันเหมือนอาคารที่กำลังสร้าง รึกำลังรื้อออก สมดุลยังแยกไม่ออก

ด้วยความเหนื่อยล้า สมดุลนอนลงที่พื้น แบมือปล่อยช้อนที่ใช้ขุดเพดานลง แล้วมองขึ้นไปบนฟ้า
สมดุลพยายามจะคิดย้อนว่า “ไอ้ที่เราขุดรูขึ้นมาดาดฟ้านี่ เราขุดขึ้นมาทำไมนะมันนานจนลืม”
ลมพัดเมฆลอยไปเรื่อยๆ สมดุลรู้สึกสบายที่ได้นอนดูท้องฟ้า ลมเย็นๆ จนเผลอหลับไป

พระอาทิตย์ตีโค้งข้ามดาดฟ้า ลดระดับลงจนฟ้าเป็นสีส้ม และค่อยๆ มืดลง มืดลง

…………

สมดุล สะดุ้งตื่น เพราะรู้สึกหนาวจากน้ำค้างที่เกาะที่หน้า มองขึ้นไปสมดุลเห็นฟ้ายังมืดอยู่
สมดุล ลุกขึ้นมาปัดฝุ่นออกจากเสื้อ ปัดกางเกงที่มีฝุ่นเกาะจนเขรอะ สมดุลมองไปที่รูดาดฟ้า
รู้สึกเหมือนมันใหญ่ขึ้นกว่าตอนที่มุดขึ้นมา สมดุลคิดว่าเผลอหลับไปซะนาน ได้เวลากลับบ้านละ

สมดุลปืนลงมาจากรูดาดฟ้า แต่พอลงมาในห้อง สมดุลรู้สึกว่าห้องนี้ไม่ใช่ห้องเรียนที่สมดุลขุดรูขึ้นไป สมดุลมองไปรอบๆ ห้อง มันมีชั้นหนังสือวางเรียงกัน บรรยากาศมันคือห้องสมุดในมหาลัย เพราะมีหนังสือเล่มหนาๆ พวกตำรางานวิจัยอยู่ในชั้นหนังสือ สมดุลมองขึ้นไปที่รูดาดฟ้า ซึ่งตอนนี้มันหายไปแล้ว!

สมดุล คิดได้ด้วยสามัญสำนึกตอนนี้ว่า “เราต้องหาบันไดลงไปข้างล่าง เราจะได้รู้ว่าเราอยู่ที่ไหน”

Jakksky
29 Sep 2021

Short Story

สมดุล เดลิเวอรี่

สมดุล เป็นมนุษย์กรุงเทพ
เดินมาหาซื้อมาม่าท่ีเซเว่น ภายใต้อากาศร้อนๆ ชื้นๆ ชวนอึดอัด ทางจากหอพักมาเซเว่น 500 เมตร เหมือนเดินผ่านเวิ้งทะเลทราย การมาซื้อม่าม่าง่ายๆ กลายเป็นจุดเปลี่ยนชีวิต เมื่อสมดุลหันไปเห็น รถจักรยาน 7 ที่มีกระเป๋าใส่ของห้อยอยู่ ไอเดียการทำ life hack ในแบบสมดุลทันที

สมดุลเปลี่ยนความตั้งใจที่จะหยิบมาม่า ไปหยิบปากกามาสมัครทำงานในตำแหน่งขี่จักยานส่งของร้านเซเว่นซะเลย ด้วยความคิดง่ายจัดๆ ว่า ในระหว่างที่ทำงาน ปั่นของจากหน้าซอยไปส่ง มันต้องมีหลายๆ ครั้งที่ผ่านบ้านตัวเอง ก็คงจะเจ๋งเลยถ้าระหว่างทำงานส่งของให้บ้านอื่นซึ่งกำลังจะเริ่มมีค่าส่ง เพราะงั้นถ้าสมดุลเป็นพนักงานปั่นจักรยานส่งของ ก็น่าจะจัดซื้อของเข้าบ้านได้ โดยไม่เสียค่าส่ง แถมทำงานที่ร้าน ก็ไดเลือกของเอง จ่ายเงินเอง ส่งเอง ปลอดภัยไร้กังวล แหมะสมดุล นี่มันหัวใสจริงๆ สมดุลคิดังจนพูดออกมา

ภารกิจแรกที่สมดุลได้รับคือปั่นจักยานไปส่ง โซดา น้ำแข็ง และขนมขบเคี้ยว คาดเดาไม่ยากเลยว่า ปลายทางน่าจะเป็นวงเหล้าสักวงนึงที่ท้ายซอย และก็เข้าทางสมดุล มีโอกาสปั่นผ่านบ้านตัวเอง สมดุลเริ่มวางไอเดียว่า วันนี้จะซื้ออะไรไปหย่อนเข้าบ้านดี เมื่อเดินหยิบของจากออเด้อบนมือถือลงตระกร้าเสร็จ สมดุลเริ่มมีไอเดียการค้าว่า ถ้าสมดุลเลือกของที่ไปเสนอขายให้กับ ลูกค้าชุดนี้เพิ่มเติมได้ เพราะดูจากออเด้อที่จะไปส่ง น่าจะเป็นวงเหล้าที่กำลังดื่มกันต่อชุดใหญ่ เพราะเวลาใกล้เที่ยงคืนแล้ว โจทย์สำคัญคือต้องเป็นของที่ต่อให้ลูกค้าไม่ซื้อ สมดุลก็เอากลับไปใช้ที่บ้านได้…. มันควรเป็นอะไรดีนะ

ว่าแล้วสมดุลก็เดินอย่างมั่นใจไปที่ชั้นวาง เครื่องเขียน เพื่อหยิบ กระดาษ A4 พร้อมปากกา
ติดรถไปเผื่อเสนอขาย ระหว่างปั่นไปสมดุลสังเกตเห็นรถในซอยจอดซ้อนคัน จอดบังกันระเกะระกะตามสไตล์ซอยหมู่บ้านวันศุกร์ เป้าหมายคืดส่งน้ำแข็ง โซดา ขนมขบเคียว ที่แถมการเพิ่มยอดขายด้วย กระดาษ A4 และปากกา ที่คิดว่า วงเหล้าต้องใช้

สมดุล: มาส่งของตามที่สั่งไว้ครับ น้ำแข็ง โซดา ขนมขบเคียว สามารถจ่ายผ่าน app ได้ครับ
แต่ลูกค้าครับ ผมปั่นจักรยานมาตลอดทางในซอย เห็นรถที่จอดขวางทางถอย ทางกลับรถกันหลายคัน
ผมมีทางแก้ว่า ถ้าพี่ๆ ซื้อกระดาษ A4 กับปากกาไว้ เพื่อเขียนเตือน หรือเขียนหมายเลขโทรติดต่อหากจอดซ้อนคัน น่าจะทำให้พี่ๆ นั่งดื่มกันสบายใจ ไร้กังวลเรื่องรถไปเลย

สมดุล เดลิเวอรี่ไอเดียเยอะ จะหาทางเพิ่มยอดขายอะรได้อีก
โปรดติดตาม

Short Story

สมดุล เป็นมนุษย์กรุงเทพ

สมดุล เป็นมนุษย์กรุงเทพ
ถ้าเปิดตัวเหมือนฉากในหนัง จะเห็นสมดุลตื่นเช้าจากนาฬิกาที่ปลุกบน iPhone12
ที่ตั้งปลุกไว้ 7 โมงครึ่ง ก่อนตื่นต้องกด Snooze 2 ครั้ง

สมดุลบิดขี้เกียจ แล้วลุกจากที่นอน พร้อมมือคว้าโทรศัพท์ติดมือเข้าห้องน้ำไป
การไถฟีดเฟซบุคระหว่างแปรงฟันเป็นเรื่องที่ทำชิน แต่ก็หาสามเหตุไม่ได้ว่าทำไปทำไม
เพราะแทบทุกวันฟีดเหล่านั้นก็ดูเดิมๆ มีข่าว มีเรื่องส่วนตัวของคนอื่น มีคลิปที่ถูกดึงมาให้ดู
ถ้าว่าจะมีเหตุผลที่ใกล้เคียงในการไถฟีดแต่เช้าก็คงเพราะ สมดุลเป็นนักข่าว ที่สำนักข่าวออนไลน์ระดับกลางๆ แห่งหนึ่ง ที่มีเป้าหมายจะต้องทำทุกสิ่งที่สำนักข่าวออนไลน์ต้องมีซึ่งนั่นทำให้ฟีดข่าว
ของสำนักข่าวที่สมดุลทำงานจึงคล้ายระเบิดเวลาดราม่า ที่พร้อมเปิดรับทัวร์คอมเมนต์ลงได้ทุกวินาที นี่ไง แปรงฟันไป ไถฝีดไป ความคิดมันก็ฟุ้งแตกฟองเต็มหัวเลย ถุย! สมดุลบ้วนปากทิ้งท้าย

กระเป๋าเป้อัดแน่นด้วย Macbook iPad แบทสำรอง สายชาร์ท ขาตั้งกล้องมือถือ สมุดจดงาน บัตรพนักงาน แม้แต่บุ๊คแบงค์ สมดุลก็ยัดไว้ในเป้ใบเก่งใบเดียว ถึงมันจะหนักเหมือนยกโต๊ะทำงานย้ายไปมา แต่การมีครบทุกสิ่งนี้สะพายหลังไป คือความอุ่นใจในการออกไปทำงาน ไม่ว่าวันนี้จะทำงานที่ออฟฟิศ ร้านกาแฟ หรือสวนสาธารณะ สมดุล พร้อมเสมอ

สมดุล เป็นมนุษย์กรุงเทพ
ที่รู้แค่ว่าเงิน 80 บาทตอนเช้า คือกุญแจไขลูกกระตาให้เปิดตอนเช้า เอสเปรสโซร้อน แก้วเล็กๆ กับคุกกี้ชิ้นเล็กๆ ก็เป็น breakfast ให้คนอย่างสมดุลได้ สมดุลเป็นคนง่าย แต่เรื่องกาแฟสมดุลเป็นคนมีสไตล์ คือทุกเมนูต้องถูกต้องในแนวทางของมันเอสเปรสโซช็อต ต้องมาในแก้วเซรามิคไซส์ช็อต มีกลิ่นควันกาแฟชัดบนปากแก้วเล็กๆ ต้องมีฟอง มีครีมม่า ที่เกิดจากการอัดด้วยเครื่องเอสเปรสโซอย่างดี การใช้นิ้วชี้ก้บนิ้วโป้งจับแก้วช็อตขึ้นยกจิบเบาๆ เพื่อเอารสขมกลมกล่อมเข้าปากตอนเช้า มันส่งรสชาติวังวาลกว่านาฬิกาปลุกเมื่อเช้านัก

สมดุล มนุษย์กรุงเทพ ผู้สตาร์ทแก้วเช้าด้วยเอสเปรโซช็อต ใช้เวลา 10 นาที จิบกาแฟ ให้ร้อนลิ้น ขมปากแล้วตัดด้วยคุกกี้รสเนยชิ้นเล็กๆ มองทอดสายตาผ่านกระจกอาคารออกไป สมดุล เห็นกรุงเทพในระดับสายตา ผู้คนที่เดินสวนผ่านกันไปมา ในเป้ในกระเป๋าน่าจะมีสิ่งของที่ไม่ต่างจากสมดุลเท่าไหร่ จู่ๆ สมดุลก็อยากสั่งอเมริกาโนร้อน เพิ่มอีกสักแก้ว เพราะอเมริกาโน มีน้ำกาแฟที่บางเบากว่า และการจิบอเมริกาโน่ต่ออีกสักหน่อย ก่อนลุกไปตอกบัตรเข้าทำงาน เพราะสมดุลมีเหตุผลง่ายๆ ที่สั่งอเมริกาโนแก้วนี้ว่า

“ผมยังอยากมองดูกรุงเทพที่มีผู้คนเดินไปมาต่ออีกสักนิด”

สมดุล
เรื่องสั้นถ่วงสมดุลของมนุษย์กรุงเทพ

jakksky
22 Sep 2021